Siam in the alternative history

***เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในนิยายเรื่องนี้ เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง เป็นเรื่องสมมติทั้งสิ้น มิได้มีเจตนาที่จะลบหลู่บุคคลใดในประวัติศาสตร์ ขอเพียงแต่ให้ผู้ที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้ได้เปิดโลกทางจินตนาการตามผู้ที่เขียนต้องการเพียงเช่นนั้น***

สาเหตุที่แต่งเรื่องนี้

เนื่องจากตัวผู้เขียนเองเป็นคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งยังชอบสิ่งที่เรียกว่า ”ประวัติศาสตร์ทางเลือก” (Alternative history) รวมถึงยังเป็นคนที่ชอบดูคลิป Hearts of Iron 4 Kaiserreich DLC และก็ยังได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายเรื่องหนึ่งในแอพ dek-d อีกด้วย

เริ่มดำเนินเรื่องปี พ.ศ.2443 ร.ศ.119 ค.ศ.1900

ตัวละครในจักรวาลนี้(จะค่อยๆทยอยเปิดตัวนะครับ)

-มานพ อรุณโยธิน (22) มณฑลศรีโคตรบูรณ์

จบมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบ พระนคร

จบการศึกษาจากโรงเรียนสงครามปรัสเซีย (Preußische Kriegsakademie)

เข้ารับราชการเป็นครูฝึกทหารที่โรงเรียนทหารบก มณฑลกรุงเก่า ก่อนสงครามจะปะทุขึ้น ย้ายไปประจำการอยู่ที่ พล.ร.9 มณฑลอุดร ตอนอายุ 26 ปี ยศนายร้อย

-นิธิ ธรรมจักร (25) มณฑลพระนคร

จบมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบ พระนคร เป็นรุ่นพี่ของมานพ

จบวิชารัฐศาสตร์ โรงเรียนการปกครอง

เข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตถ์ ได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นผู้แทนมณฑลพระนคร ตอนอายุ 29 ปี

-อรัญ อัศวนาวิน (22) มณฑลจันทบูร

จบมัธยมที่โรงเรียนชลธีร์อุทิศ จันทบุรี

จบการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือคุซเนตซอฟ จักรวรรดิรัสเซีย 

เข้าประจำการบนเรือหลวงธนบุรี กองเรือที่ 1 กองเรือพระนคร ตอนอายุ 23 ปี

-ขวัญ อรุณโยธิน (16) มณฑลอุดร

เป็นลูกบุญธรรมของผู้กองมานพกับจ่าพิเชษฐ์ เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนอัสสัมชัญพระนคร ก่อนที่จะเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนสอนวิชาทหารบก ก่อนที่จะเข้าประจำการในกรมรถรบที่ 1 มณฑลพระนครก่อนที่จะสร้างชื่อเสียงที่เป็นประจักษ์ในไม่ช้า

-เมธี อรุณโยธิน (6) มณฑลอุดร

ลูกชายของมานพกับแก้ว น้องสาวของนิธิ ฝันจะเข้ากองทัพอากาศสยามให้ได้

การเปลี่ยนแปลง ณ วันที่ 2 เมษายน 2565

เนื่องจากทางไรท์ 1 และ ไรท์ 2 เล็งเห็นว่าการจะสานต่อเนื้อเรื่องในตอนต่อๆไป แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Kaiserreich ทั้งแบบที่เป็นม็อดในเกม หรือ จากทางต้นฉบับ ออกจะเป็นการสร้างเรื่องราวของสยามตามแต่จินตนาการของผู้เขียนเอง เกี่ยวข้องกับ Kaiserreich เพียงแคการขึ้นเป็นมหาอำนาจของจักรวรรดิเยอรมันเท่านั้น จึงได้ขอทำการเปลี่ยนเพียงแค่ชื่อของนิยายเท่านั้น เนื้อหาต่างๆจะยังคงดำเนินต่อไป